ที่เมืองยาอิซุ มีท่าเรือ 3 แห่ง คือท่าเรือยาอิซุ ท่าเรือโคะกาวะ ท่าเรือ โออิกาวะ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีลักษณะเฉพาะของตนเอง ที่ท่าเรือยาอิซุ โดยส่วนใหญ่ปลาคัตสึโอะ (ปลาโอ) และปลาทูน่า จะถูกนำขึ้นจากเรือที่นี่ โดยมีปริมาณปลาสูงที่สุดในญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ที่ท่าเรือ โคะกาวะจะเป็นปลาซาบะและปลาอะจิ ส่วนที่ท่าเรือโออิกาวะจะเป็น ปลาชิราสุและกุ้งซากุระซึ่งจับได้เฉพาะที่อ่าวซึรุกะเท่านั้น

"ตลาดปลายาอิซุ" ที่ซึ่งมีผู้คนมาเยี่ยมชมประมาณ 1.7 ล้านคน ต่อปี มีร้านค้าประมาณ 60 ร้านตั้งเรียงรายโดยส่วนใหญ่เป็น ร้านค้าที่จำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปและปลาสดๆที่จับได้ในยาอิ ซุ ที่นี่คุณสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของตลาดพร้อมทั้ง เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารและช้อปปิ้ง

ออนเซ็นธรรมชาติคุณภาพสูงที่ผุดขึ้นมาจากชั้นดิน "ชั้นเมะกามิ" ซึ่งอยู่ใต้ดิน 1,500 เมตรและมีอายุประมาณ 19 ล้านปี ออนเซ็น คลอไรด์ซึ่งมีปริมาณเกลือประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำทะเลเป็นน้ำ ร้อนที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆซึ่งอ่อนโยนต่อผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้น สูง และเย็นตัวช้า คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ 9 แห่งที่อยู่ ภายในเมือง อาทิเช่น อ่างแช่เท้าที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ โดยสะดวก อ่างน้ำร้อนกลางแจ้งพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของ ภูเขาไฟฟูจิ อ่างน้ำร้อนกลางแจ้งส่วนตัวที่สามารถแช่น้ำร้อนไป พร้อมกับการสัมผัสบรรยากาศของเมืองท่า ออนเซ็นแห่งนี้ได้รับ รางวัลชนะเลิศจากทั่วประเทศในประเภทออนเซ็นที่ทำให้สดชื่น ในงาน "ประกวดออนเซ็น 2019"

ที่เมืองยาอิซุ ไม่เพียงแต่อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมประเภทปลา เท่านั้น แต่คุณยังสามารถลิ้มรสอาหารประเภทปลาอื่นๆ นอกเหนือจากซูชิได้ทั้งปีจากการจัดงานเทศกาลอาหารต่างๆใน ปัจจุบัน เชิญเพลิดเพลินกับอาหารที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่าง ประณีตและอาหารจานพิเศษมากมายหลายเมนูที่เราภาคภูมิใจ

เนื่องจากเมืองยาอิซุเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองโดยมีท่าเรือประมง เป็นศูนย์กลาง ซูชิซึ่งเป็นอาหารที่คุณจะได้ลิ้มรสปลาสดๆได้ จึง เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของเมืองยาอิซุ ปลาทะเลสดใหม่ เช่น ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาอาจิ ซึ่งเพิ่งขึ้นจากเรือจัดได้ว่าเป็น เมนูระดับสุดยอด ปลาชิราสุและกุ้งซากุระที่จับได้เฉพาะใน อ่าวซุรุกะ ก็เป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าและมีเสน่ห์น่าดึงดูดเช่นกัน

โรงหมักเหล้าสาเกอิโซจิมัง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1830 ผลิตสาเกด้วยกรรมวิธีหมักด้วยมือพร้อมกับการใส่ทั้งจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยใช้น้ำจากน้ำใต้ดินของแม่น้ำโออิที่มีแหล่งที่มาจากเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ของญี่ปุ่น และข้าวยามาดะนิชิกิจากพื้นที่โทโจ ซึ่งจัดเป็นวัตถุดิบระดับสูง โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของสาเกแท้ด้วยการผสมผสานระหว่างวิถีดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่ๆ สาเกที่ผลิตได้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสาเกสำหรับชนแก้วในงานเลี้ยงอาหารค่ำของงานประชุมนานาชาติ อาทิเช่น งานประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G8 ที่โทยาโกะและ G7 ที่อิเสะชิม่า และได้รับการประเมินอย่างสูงจากทั้งในและนอกประเทศ โรงสาเกนี้เป็นโรงหมักเหล้าสาเกที่มีชื่อเสียงมายาวนานซึ่งมุ่งมั่นที่จะผลิตเหล้าสาเกที่มีรสนิยมและเข้ากับยุคสมัย

ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เช่นคัตสึโอะบุชิ (Katsuobushi ปลาโอแห้ง) นามาริบุชิ (Namaribushi ปลาโอรมควัน) คัตสึโอะ โนะ ทาทาคิ (Katsuo-no-tataki ปลาโอซาชิมิแบบครึ่งดิบครึ่งสุก) ทสุคุดานิ (Tsukudani อาหารที่ปรุงด้วยรสชาติเค็มๆหวานๆ) และชิโอคาระ (Shiokara ปลาร้าญี่ปุ่น) เป็นต้น เป็นอาหารทะเลแปรรูปสุดพิเศษและอร่อยประจำเมืองยาอิซุที่แปรรูปจากคัตสุโอะ (Katsuo ปลาโอ) มากูโร (Maguro ปลาทูน่า) สดๆจากท่าเรือยาอิซุ นอกจากนี้ ยังขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตเนื้อปลาบดปรุงรสเช่น คุโรฮัมเป็น (Kurohanpen เนื้อปลาบดปรุงรสที่ทำจากปลาซาดีน) คามาโบโกะ (Kamaboko เนื้อปลาบดปรุงรสชนิดหนึ่ง) และนารุโตมากิ (Naruto-maki เนื้อปลาบดปรุงรสที่มีลวดลายสีชมพูสวยงามตรงกลาง) อีกด้วย

เป็นสถานที่แนะนำประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมประมงของยาอิซุ ที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโทคุกาวา (Tokugawa) (1603~1867) ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงเอกสาร และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของบรรพบุรุษ และความเป็นมาของท่าเรือยาอิซุที่เติบโตมาจากชายหาดขรุขระไม่มีความเป็นท่าเรือในอดีตจนพัฒนามาเป็นท่าเรือชั้นนำแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น อย่างเช่น สะพานเดินเรือปลาโอที่ทำด้วยไม้ เรือประมงขนาดเล็กที่อยู่ตามชายฝั่ง บ้านและอุปกรณ์ชาวประมงจำลองในสมัยเมจิตอนปลาย และเอกสารโบราณเป็นต้น

หมู่บ้านบนภูเขาประมาณ 30 หลังคาเรือนที่สร้างตามถนนยาคิซึ เบะโนะโคะมิฉิ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นถนนโทไคโด (ถนนเลียบฝั่งทะเล ตะวันออก) ในยุคสมัยนารา คุณสามารถเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์ ประวัติศาสตร์ที่มีกำแพงหินและอาคารไม้ผสมผสานกับ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ในปี ค.ศ.2014 หมู่บ้านนี้ได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์อาคารสมัยเก่าที่สำคัญ แห่งชาติเป็นแห่งแรกในจังหวัดชิซูโอกะ สถานที่สำคัญอื่นๆที่น่า เยี่ยมชม ได้แก่ วัดโบราณวัดฮกเคจิ กระท่อมกังหันที่ใช้กำลังน้ำ และร้านกาแฟบ้านโบราณซึ่งกล่าวกันว่าสร้างขึ้นเลียบถนนในยุคสมัยนารา

คุณสามารถเพลิดเพลินกับทะเลของยาอิซุได้ที่สวนชินซุย ฮิโรบะ ฟิชชููนะ แอ่งน้ำที่สร้างให้ลงไปสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ในช่วงจังหวะที่น้ำทะเลในอ่าวซูรูกะลดลง ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณ์สัตว์น้ำธรรมชาติที่เด็กๆชอบมาก ในโซนตกปลา จะมีรั้วและม้านั่งจัดเตรียมไว้ให้ จึงสบายใจได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการตกปลาชนิดต่างๆตามฤดูกาลได้ เช่นการตกปลาปลากระพงดำ ปลากระพงขาว ปลาหมึกรูปไข่อาโอริอิกะด้วยเบ็ดโสก (Sabiki fishing) หรือด้วยเหยื่อปลอม (lure fishing)

น้ำแข็งใส “ฉะ-โกริ” ทำจากชาชิซึโอกะที่ขึ้นชื่อเป็นหนึ่งในสามของชาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ผู้ค้าส่งชาและร้านกาแฟได้ดัดแปลงชาจากจังหวัดชิซูโอกะซึ่งมีจำนวนผลิตประมาณ 40% ของประเทศ ให้กลายมาเป็นน้ำแข็งใสที่มีเอกลักษณ์ในหลากหลายเมนู ขอเชิญชวนให้ไปตะลอนทัวร์น้ำแข็งใส แล้วคุณจะได้ทานน้ำแข็งใสอร่อยๆและเย็นฉ่ำในหลากหลายรูปแบบและรสชาติเช่น มัทฉะรสเข้มข้น ชาฝรั่ง ชาเขียวคั่ว และเซ็นฉะตามสถานที่ต่างๆได้ด้วย

" เสื้อเชิ้ตยาอิซุ อุโอกาชิ " เป็นเสื้อเชิ้ตท้องถิ่นที่ทำจากเทะนุกุย (Tenugui ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดมือแบบญี่ปุ่น) และผ้ายูกาตะที่แห้งเร็วและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม กล่าวกันว่า เริ่มจากการที่เจ้าหน้าที่ประมงได้นำเอาเทะนุกุย (Tenugui) ที่ได้มาไปตัดใส่เป็นชุดทำงาน และเสื้อเชิ้ตที่ว่านี้ ยังเป็นที่รู้จักกันในนามของ เทะนุกุย จุบัง (Tenugui juban) อีกด้วย ในปัจจุบัน ด้วยความมีสีสันและลวดลายอันสดใส จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนในวัยหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และยังนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากกันอีกด้วย อุโอกาชิ คูลบิซ (Uogashi Cool Biz) การสวมเสื้อเชิ้ตอุโอกาชิทำงานในที่ว่าการอำเภอ สถาบันการเงิน และสถานประกอบการต่างๆในท้องถิ่น เป็นวัฒนธรรมการสวมเสื้อในฤดูร้อนประจำเมืองที่เป็นที่รู้จักกันดี

ศาลเจ้ายาอิซุซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่โบราณยาวนานกว่า 1600 ปี เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ปรากฏอยู่ในตำราเอนกิชิคิ ศาลเจ้านี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "อิริเอะไดเมียวจิน" โดยนับถือยามาโตะทะเคะรุมิโคะโตะเป็นเทพเจ้า ในวันที่ 12 และ 13 สิงหาคมของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า เทศกาลอะระมัตซึริแห่งโตไค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 13 จะมีการแห่มิโคชิ (ศาลเจ้าขนาดเล็กที่ใช้คนหาม) 2 องค์ไปทั่วเมืองอย่างกล้าหาญ ในตอนต้นของขบวนจะมีสิงโตไม้นำหน้าเป็นการชำระล้างถนนให้สะอาดบริสุทธิ์ และมีเสียงร้องเพลงของเด็กหญิงดังก้องกังวานอย่างบริสุทธิ์ เทศกาลอะระมัตซึริเป็นเทศกาลที่เป็นการตัดกันของสิ่งที่หยุดนิ่งและสิ่งที่เคลื่อนไหว

สร้างขึ้นในปีค.ศ.1471 ในเขตโคกาวะ เอเกะโนะชิมะ เมืองยาอิซุ และกล่าวกันว่าได้ย้ายไปตั้งอยู่ในตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันตามคำทำนายของผู้แสวงบุญ ซาเซ็นโด หอนั่งสมาธิ กล่าวกันว่าถูกสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1728 ใช้เป็นสถานที่นั่งทำสมาธิในบรรยากาศอันเคร่งขรึม และยังเป็นที่รู้จักกันในนามของวัดไฮเดรนเยีย ในเดือนมิถุนายนของทุกปี จะมีไฮเดรนเยียประมาณ 300 ต้น ออกดอกหลากสีบานสะพรั่งภายในวัดและบริเวณทางเดินเข้าวัดด้วย

กล่าวกันว่า ศาลเจ้าโออิฮาจิมังกูถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (ช่วงปีทศวรรษที่ 980) เพื่อขอบคุณและบูชาวิญญาณแห่งน้ำในแม่น้ำโออิกาวา งานฟูจิโมริ-โนะ-ทะอาโซบิที่จัดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคมของทุกปี เป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองที่มีการร่ายรำถ่ายทอดให้เห็นถึงลำดับขั้นตอนของการปลูกข้าวตั้งแต่การพัฒนาผืนดินไปจนถึงการเก็บเกี่ยวข้าว งานนี้จัดขึ้นเพื่ออธิษฐานขอพรให้ได้ผลผลิตที่ดีและสามารถควบคุมดูแลน้ำในแม่น้ำโออิกาวาได้ อีกทั้ง การร่ายรำนี้ยังได้รับการลงทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ของชาติในปีค.ศ. 1977 ด้วย

ซากุระ เป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น สถานที่ต่างๆในเมืองยาอิซุก็จะสวยสดใสเต็มไปด้วยสีชมพูอ่อนๆจากดอกซากุระด้วย ความงดงามของซากุระมีให้ชื่นชมตามสถานที่ต่างๆมากมายเช่น "ซากุระยามาโนเตะ" เป็นซากุระบานเร็ว (Hayazaki Sakura) ที่อยู่บนริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำอาซาฮินะ มีความยาวรวม 2 ก.ม. จะบานเต็มที่ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินกับความงดงามของพรมซากุระหรือแพซากุระ (เกิดจากกลีบซากุระที่ร่วงหล่นอัดแน่นอยู่เต็มผิวน้ำ) จากต้นซากุระที่ขึ้นเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำคิยะกาวา (Kiyagawa) ในตำบลซุมิเรได (Sumiredai) และวิวซากุระกับภูเขาไฟฟูจิที่ริมฝั่งแม่น้ำโทจิยามากาวา (Tochiyamagawa) ได้ด้วย

ทาอิเรียวบาตะเป็นธงที่ชักขึ้นเพื่อแสดงให้ผู้คนที่เฝ้ารอการกลับมาที่ท่าเรือทราบว่า วันนี้หาปลาได้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันใช้เป็นธงตกแต่งเรือต่างๆในพีธีการออกเรือใหม่ การเข้า-ออกท่าเรือ และในเทศกาลปีใหม่ ลวดลายสีสันสดใสทำให้มองเห็นธงเด่นชัดมาแต่ไกล ลวดลายที่วาดลงในธงจะใช้ลวดลายที่ให้ความหมายอันเป็นศิริมงคลเช่นเรือสมบัติ นกกระเรียน เต่า และพระอาทิตย์ขึ้นเพื่ออธิษฐานขอให้หาปลาได้เป็นจำนวนมากและปลอดภัย ร้านย้อมผ้าที่สืบสานความมีชีวิตชีวาของหมู่บ้านชาวประมงมาจนถึงปัจจุบัน ทำการย้อมผ้าด้วยมือทีละผืน ทีละผืนอย่างพิถีพิถัน

ที่เมืองยาอิซุ มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามมากมายหลายจุด หากคุณไปที่ชายหาด เช่น หาดฮามาโตเมะ คุณก็สามารถ เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่กลมกลืนกันของภูเขาฟูจิและอ่าวซุ รุกะที่กว้างใหญ่ และถ้าคุณไปที่ท่าเรือโคะกาวะ คุณก็สามารถ ดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพของเรือประมงและภูเขาฟูจิที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะของเมืองท่า แม้แต่ในเมืองคุณสามารถ มองเห็นภูเขาฟูจิผ่านภูเขาทาคาคุสะยามะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ เมืองยาอิซุ